ข้อดีของซีรีย์ Netflix ที่ทำให้คุณติดหนึบไม่มีเบื่อ
ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ แบบคนดูซีรี่ย์ตัวจริงเสียงจริงเลยนะ Netflix นี่แหละเป็นหนึ่งในของดีประจำโลกยุคดิจิทัลที่อยู่ๆ ก็กลายมาเป็นเพื่อนซี้ของใครหลายคนแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะวันสุข วันเศร้า วันว่าง หรือวันเบื่อๆ ที่ไม่รู้จะทำอะไร แค่หยิบรีโมตหรือเปิดแอป Netflix ขึ้นมาก็เหมือนได้เดินเข้าประตูวาร์ปไปอีกโลกที่มีแต่เรื่องราวน่าติดตามเต็มไปหมด รู้ตัวอีกทีก็คือลุกจากโซฟาไม่ขึ้นแล้ว ความดีงามของ ซีรี่ย์ Netflix มันไม่ได้อยู่แค่ในปริมาณของซีรีส์ที่เยอะจนดูทั้งชาติก็ไม่หมดนะ อย่างที่ serie-day แต่มันอยู่ใน “คุณภาพ” กับ “ความกล้า” ของเนื้อหาที่เขาผลิตออกมาต่างหาก หลายเรื่องกล้าพูด กล้าทำ กล้านำเสนออะไรที่ช่องทั่วไปไม่กล้าจับ ไม่กล้าแตะ เพราะกลัวจะเสี่ยง กลัวจะขัดใจคนดู แต่นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้ซีรีส์ Netflix มีชีวิต มีน้ำเสียง และมีความจริงใจที่สัมผัสได้ ไม่ใช่แค่ละครน้ำเน่าหรือสูตรสำเร็จแบบที่เห็นบ่อยๆ อีกอย่างที่เราต้องยอมรับคือ Netflix ทำให้โลกทั้งใบมันแคบลงในทางที่ดี เราสามารถนั่งอยู่ในกรุงเทพ แต่ดูชีวิตวัยรุ่นในสเปนผ่านElite หรือไปร่วมลุ้นกับนักสืบเกาหลีในSignal ได้แบบไม่ต้องซื้อตั๋วบิน ซีรีส์จากประเทศต่างๆ ที่เมื่อก่อนอาจไม่มีโอกาสได้ดูเลย กลายมาเป็นกระแสระดับโลกได้เพราะ Netflix เป็นเหมือนเวทีเปิดให้ทุกเสียงได้ดังอย่างเท่าเทียม ซึ่งมันโคตรจะเจ๋ง และเราก็ได้เห็นวัฒนธรรมต่างๆ แบบของจริง ไม่ใช่แบบที่เขาเล่าให้ฟังผ่านข่าว
สิ่งที่คนอาจไม่ทันสังเกตอีกอย่างก็คือ Netflix มันทำให้ “เวลาส่วนตัว” กลายเป็นของมีค่า เราไม่ต้องรอดูละครหลังข่าวตอนสามทุ่ม ไม่ต้องกดข้ามโฆษณาให้เสียอารมณ์ อยากดูตอนไหน ก็ดู อยากหยุดตรงไหน ก็หยุด แล้วกลับมาดูต่อเมื่อไหร่ก็ได้ มันเป็นความอิสระที่แสนจะเรียบง่ายแต่ก็มีความหมาย เพราะมันทำให้การดูซีรีส์กลายเป็นประสบการณ์ส่วนตัวแบบแท้จริง เหมือนมีจักรวาลส่วนตัวที่ใครก็มาแทรกไม่ได้ อีกจุดที่เราชอบมากคือการที่ Netflix กล้าผลักดันนักแสดงหน้าใหม่ หรือทีมสร้างที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมาก่อน แล้วให้โอกาสเขาได้เล่าเรื่องในแบบของตัวเอง นี่แหละคือของจริง ไม่ใช่แค่หยิบเอาดาราคนเดิมมาเล่นบทคล้ายๆ กันวนไปวนมา มันทำให้เราได้เห็นแง่มุมใหม่ๆ จากคนที่ไม่เคยได้พูด และมันทำให้เราเชื่อว่า ใครก็มีสิทธิ์จะเป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ ถ้ามีเรื่องจะเล่า พูดไปก็อาจฟังดูเว่อร์ แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ Netflix ทำให้การดูซีรีส์ไม่ใช่แค่ “ดูไปงั้นๆ” อีกต่อไป มันกลายเป็นการเดินทาง การเข้าใจคนอื่น และบางทีก็เข้าใจตัวเองผ่านเรื่องที่ได้ดู บางเรื่องเรียกน้ำตา บางเรื่องทำให้เราหัวเราะจนปวดท้อง หรือบางเรื่องก็ทำให้เรานั่งนิ่งๆ คิดอะไรต่อได้อีกทั้งคืน นี่แหละคือพลังของเรื่องเล่าดีๆ ที่ Netflix รู้จักคัดสรรมาให้ พูดได้เต็มปากเลยว่า การมี Netflix อยู่ในชีวิต มันเหมือนมีห้องสมุดของเรื่องเล่าทุกแนว ทุกภาษา ที่แค่กดเข้าไปก็เหมือนได้เปิดประตูไปสู่อีกโลกหนึ่งที่ไม่มีขอบเขตเลยจริงๆ
